10 mar 2020
ตลาดหลักทรัพย์ไทย Black Monday วิกฤติโคโรนาไวรัสและสงครามราคาน้ำมัน สร้างความแตกตื่นให้กับนักลงทุนต่างนำหุ้นออกเทขาย ตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับจากปี 2551 ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,255.94 จุด ลดลง 105.63 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,200 จุด ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ ดัชนีตลาดระยะสั้นยังมีแนวโน้มผันผวนในทิศทางลง ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดดิ่งลงแบบมีช่องว่างขาลง (Gap = 1,272 – 1,364 จุด) สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเพื่อปิดช่องว่างขาลง (Filling the gap) ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างเพื่อลงต่อหรือเพื่อปรับฐาน เส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) เรียงตัวแบบตลาดขาลง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลง จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E ที่มีแนวรับทางจิตวิทยาอยู่ที่ 1,300 จุด มีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) อยู่ที่ 1,292 จุด และมีแนวรับของคลื่น (4) อยู่ที่ 1,220 จุด เมื่อนำจุดต่ำที่ 380 จุด กับจุดสูงที่ 1,852 จุด มาวิเคราะห์แนวรับ จะได้แนวรับดังนี้ 38.0% Fibonacci Retracement = 1,290 จุด 50.0% Fibonacci Retracement = 1,116 จุด 61.8% Fibonacci Retracement = 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,200 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,272 – 1,289 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,220 – 1,200 จุด กลยุทธ์การลงทุน ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง